Google Ads นั้นเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการเข้าถึงลูกค้าของเราที่มีความต้องการสินค้าหรือบริการของเรา ในช่วงเวลาที่เหมาะ และในงบประมาณในการทำการตลาดของเรา โดยทีมงานของเรา TopRocketing ให้บริการรับทำ Google Ads ในทุกผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณก้าวนำเหนือคู่แข่งได้อย่างแน่นอน พร้อมด้วยการวางแผนกลยุทธ์จากทางเรา
เราใส่ใจเหมือนเป็นธุรกิจของเราเอง เป้าหมายของเราคือทำกับเรายังไงก็ต้องดีขึ้น และเหมือนมีที่ปรึกษาที่ดี
มีการรายงานผลในการดำเนินงานทุก 2 สัปดาห์ เพื่อวางแผนการดำเนินงานในอนาคต รวมถึงการขยายตลาด
มีพนักงานคอยจัดการคีย์เวิร์ดในการค้นหาให้ทุกวัน เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุดในงบประมาณที่ใช้จ่าย
พนักงานของเราคอยคิดครีเอทีฟโฆษณาให้ พร้อมทั้งปรับแก้ให้มีประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมอยู่เสมอ
ทีมงานของเราชำนาญ สามารถใช้เครื่องมือทุได้อย่างดีเยี่ยม รวมถึงประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
เรามีความชำนาญในธุรกิจทุกประเภท จากประสบการณ์ในการทำการตลาดออนไลน์ของเรามากกว่า 10 ปี
โฆษณา Google Ads นั้นจะเป็นการโฆษณาไปยังผู้ที่ต้องการผลิตภัณฑ์หรือการบริการนั้นจริงๆ โดยโฆษณาส่วนมากของ Google หรือในแคมเปญ Search จะทำการแสดงผลก็ต่อเมื่อมีผู้ใช้ค้นหาและคลิกเข้ามาในเว็บไซต์ของเราจริงๆเราถึงจะจ่ายเงินให้ Google
ซึ่งตรงนี้อาจแตกต่างกับบางแพลทฟอร์มที่เรียกเก็บเงินกับการแสดงผล ต่อให้คนๆนั้นไม่ได้สนใจธุรกิจเราจริงๆ แค่เลื่อนผ่านเราก็เสียเงินแล้ว แต่สำหรับ Google เราจะไม่เสียจนกว่าเขาจะเข้ามาที่ร้านเราจริงๆ
ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า Google นั้น เป็น Platform ที่ให้บริการด้านข้อมูลเป็นหลัก เพราะฉะนั้นสิ่งที่ Google ให้ความสำคัญมากที่สุดก็คือเรื่องของ Data ในเดือนแรกที่เราต้องการทำการตลาด เราอาจต้องศึกษาตลาดก่อนว่า คำที่เราต้องการซื้อที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของเรานั้น มีการค้นหาจริงๆว่าอย่างไรบ้าง คนกลุ่มไหนบ้างที่จะมีโอกาสเป็นลูกค้าของเรา คนกลุ่มไหนบ้างที่ไม่ใช่กลุ่มลูกค้าของเรา
หลายคนมากที่เริ่มทำการตลาดใน Google อาจถอดใจ เพราะบางทีก็อาจได้ลูกค้าน้อย สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า Google ยังไม่รู้ว่า ใครที่เป็นลูกค้าของเรา เพราะฉะนั้นการเก็บข้อมูลที่แม่นยำเพื่อนำไปทำการตลาดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ เรียกได้ว่า เราปูพื้นฐานธุรกิจของเราให้ดี จากนั้นเมื่อเราสโคปกลุ่มลูกค้าของเราได้แล้ว เราก็มาลุยกันเลย
ตอนนี้เรารู้แล้วว่าลูกค้าของเราเป็นใคร เราก็มากำหนดกลยุทธ์ในการทำการตลาดของเราด้วยต้นทุนที่เหมาะสม เพื่อใช้จ่ายงบประมาณของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ งบประมาณตรงนี้จะแตกต่างกันไปกับแต่ละธุรกิจ หรือการบริการ เพราะแต่ละธุรกิจก็มีการแข่งขันและต้นทุนการตลาดที่ไม่เหมือนกันนะครับ
เมื่อเรามีข้อมูลมากเพียงพอตอนนี้เราสามารถกำหนดขอบเขตของลูกค้าให้แคบลงได้ นั่นหมายถึงเราสามารถเข้าถึงตอนนี้เรารู้แล้วว่าใครคือลูกค้าที่ที่แท้จริงของเรา เราควรกำหนดงบประมาณสำหรับลูกค้าใหม่สร้างการรับรู้ และลูกค้าที่มีความสนใจอย่างซื้อแล้วจริงๆในอัตราส่วนเท่าไหร่ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่ากับจำนวนเงินที่เราจ่ายไปมากที่สุด
ช่วงนี้เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่มีข้อมูลที่มากพอ และมากไปกว่านั้น เราเชื่อว่าจากลูกค้าที่เราหามาให้ ตอนนี้สามารถทำให้เรามีงบประมาณมากขึ้นในการสเกลธุรกิจให้โตมากขึ้น รวมถึงเปิดผลิตภัณฑ์อื่นๆที่สามารถทำการตลาดได้ เพื่อให้เราสามารถสร้างยอดขายจากผลิตภัณฑ์อื่นได้ด้วย และเราสามารถสร้างการรับรู้ของแบรนด์ของเรา หรือผลิตภัณฑ์ของเราได้มากขึ้นอีกด้วย
ตอนนี้เป้าหมายของเราคือเป็นการปั้นแบรนด์ของเราให้คนรู้จักมากขึ้น สร้างการรับรู้ ถามว่าทำไมเราถึงมาทำช่วงนี้เลยก็เพราะว่า การสร้างแบรนด์นั้นเป็นอะไรที่เรียนกว่าใช้งบประมาณสูงเช่นกัน แต่ผลลัพท์ที่ได้หลังจากติดตลาดแล้วนั้นก็ถือว่าคุ้มค่ามากๆ ถ้าแบรนด์เราติดได้แล้วต้นทุนค่าการตลาดเราก็จะมีจำนวนที่ถูกลงอย่างแน่นอน
มาถึงตรงนี้เราก็น่าจะเห็นภาพว่า Google นั้นเป็นเครื่องมือที่เน้นข้อมูลเป็นอย่างมาก และมั่นใจพอสมควรว่าสิ่งที่เราวางแผนสำหรับธุรกิจหรือบริการของคุณก็ถือว่ามีความแม่นยำ และสร้างรายได้ให้กับผู้เข้ารับการบริการของเราพอสมควร ขั้นตอนของเราก็คืออัพเดทสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นยิ่งๆขึ้นไป หรือถ้าทางธุรกิจอยากเพิ่มผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ๆ เราก็จะเริ่มต้นทำใหม่กับผลิตภัณฑ์ใหม่ตั้งแต่แรก เพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้ต่อไป
เพียงแค่เราเปิดบัญชีและเริ่มเซทแคมเปญเราก็สามารถเริ่มทำโฆษณา Google Ads ด้วยตนเองได้ทันที แต่ถามว่าทำไมถึงต้องทำกับเรา ตรงนี้เรามั่นใจเต็ม 100% ว่าทำกับเรารวมค่าจ้างเราแล้วก็ยังถูกกว่างบประมาณที่คุณลูกค้าจะทำเองแน่นอน เพราะเรามีความชำนาญในการทำ และรู้จักเครื่องมือทุกตัว รวมถึงมีการวางแผนกลยุทธ์ในการทำการตลาด เมื่อจ้างเราเลยจะทำให้ธุรกิจของท่านเติบโตได้ไว และคุ้มค่ากว่าการที่ลองศึกษาและลองทำเองแน่นอน
ในโลกออนไลน์นั้น เว็บไซต์จะเปรียบเสมือนบ้านใหญ่ ส่วนช่องทางอื่นๆคือส่วนต่อเติม เพราะฉะนั้นการทำ Google Ads ให้ประสบความสำเร็จ Website นั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ จำเป็นต้องมี
เราสามารถกำหนดงบประมาณในการทำการตลาด้วยตัวเราเองได้ โดยระยะเริ่มต้นเราอาจลองก่อนน้อยๆก็ได้เช่นกัน และพอเราเริ่มขายได้แล้วเราอยากขยายก็ค่อยอัดขยายเพิ่มไป
Google Ads สามารถทำได้ทุกธุรกิจ เพราะมีตัวเลือกที่หลากหลายในการทำโฆษณา ทั้งรูปแบบการค้นหา หรือ Search, Display, YouTube, Application และ Shopping เรียกได้ว่าตอบโจทย์ทุกธุรกิจเลยนั่นเอง
จากประสบการณ์ของเราในทุก Platform นั้น Google Ads ถือว่าเป็น Platform ที่มีค่าโฆษณาที่ถูกที่สุด และประสิทธิภาพดีที่สุด เพราะเราสามารถเข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการของเราได้จริงๆ Google จะไม่แสดงโฆษณาของเราไปยังคนที่ไม่เกี่ยวข้อง จึงทำให้เราสามารถใช้งบประมาณของเราได้อย่างคุ้มค่ามากๆ
เราสามารถทำโฆษณาของคุณให้ติดอันดับ 1 ได้ แต่ตำแหน่งการติดไม่ใช่เป้าหมายหลักของเรา เพราะตำแหน่งอันดับ 1 ไม่ได้หมายความว่าเราจะขายของได้เสมอไป เพราะผู้ซื้อต้องทำการเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ก่อนอยู่แล้ว เป้าหมายเราคือเราจะทำให้แอดแสดงต่อผู้มีความสนใจที่อยากจะซื้อแล้วจริงๆ เพื่อให้งบประมาณที่ลูกค้าใช้จ่ายเกิดความคุ้มค่ามากที่สุด เพราะอันดับกินไม่ได้ แต่ยอดขายเรากินได้นั่นเอง
โฆษณาบน Google Ads นั้นจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 แบบ โดยแต่ละแบบก็จะเหมาะกับการใช้งานในผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันออกไป
เป็นโฆษณาประเภทหลักของ Google ที่ใช้กันอย่างมาก โดยโฆษณานี้จะปรากฏในผลของการค้นหาของ Google อย่างที่แสดงในรูปภาพตัวอย่างเลย ซึ่งเวลาที่เราต้องการค้นหาอะไร โฆษณาของ Google ก็จะขึ้นมาอยู่ด้านบนก่อนเลย
โฆษณาประเภทนี้จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของเราไปกระจายอยู่ทั่วทั้ง Internet ตามเว็บไซต์พาร์ทเนอร์ของ Google ยกตัวอย่างเช่น Sanook, Dek-D ชิลไปไหน และอื่นๆอีกมากมาย โดยที่เราไม่ต้องไปติดต่อตามเว็บเหล่านั้นเพื่อขอลงโฆษณาเลย แต่เราก็สามารถสร้างการรับรู้ให้คนรู้ถึงแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ของเราได้ทั่วทั้งโลกออนไลน์
โฆษณาประเภทนี้ ก็คือโฆษณาที่ไปแสดงผลบน YouTube นั่นเอง ถามว่าทำไมถึงทำได้ ก็เพราะว่า YouTube ก็เป็นของ Google ด้วยนั่นเอง โดยโฆษณานั้นก็มีหลายรูปแบบหลายประเภทด้วยเช่นกัน
โฆษณาประเภทนี้เป็นโฆษณาที่เหมาะกับร้านค้าประเภท E-Commerce โดยเฉพาะ ซึ่งการที่เราจะทำได้นั้นเว็บไซต์ของเราก็ต้องมีระบบตะกร้าสินค้าด้วยเช่นกัน และอีกเงื่อนไขคือ เราต้องทำการสมัคร Google Merchant Center ด้วยนั่นเอง
โฆษณาประเภทนี้ก็เหมาะสำหรับ ธุรกิจหรือบริการที่ต้องการให้คนดาวน์โหลดแอปของเรานั่นเอง เพื่อให้คนเข้ามาใช้แอปของเราเยอะๆ เช่น 7-11, Shopee, Lazada ซึ่งส่วนมากก็จะอยู่ในธุรกิจขนาดใหญ่นั่นเอง
